สตีฟ เดวิส จากเทพบัตรคิวทอง สู่ดีเจให้บันเทิง
สตีฟ เดวิส ตำนานนักสนุกเกอร์ เทพบุตรคิวทอง
สตีฟ เดวิส ชื่อนี้ถูกขนานนามมาอย่างยาวนาน ไม่มีใครไม่รู้จักในช่วงทศวรรษ 1980 เขาสามารถครองนักสอยคิวมืออันดับ 1 ของโลก ได้ถึง 7 ฤดูกาลติดต่อกัน และเป็นอดีตแชมป์โลกถึง 6 สมัย เขาเป็นไอดอลของนักสนุกเกอร์หลายๆคน ซึ่งฝีมือเขาระดับมหากาฬ มีหลายคนที่คนอยากจะเล่นสนุกเกอร์ได้เก่งและประสบความสำเร็จแบบเขา รวมถึงเป็นผู้บุกเบิกการเล่นสนุกเกอร์ให้แพร่หลาย เขาเป็นบุคคลสาธารณะที่มีชื่อเสียงและได้รับการยกย่องจากคนรอบข้างว่าเป็นหนึ่งในผู้เล่นที่ยิ่งใหญ่ที่สุดตลอดกาล แต่หลังจากที่เขาได้แขวนคิวในวัยเกือบ 60 เขาได้ผันอาชีพไปเป็นดีเจ ผู้ให้ความบันเทิงแก่ผู้คนยามค่ำคืน
ประวัติ สตีฟ
เกิดวันที่ 22 สิงหาคม 1957 ที่ย่านพลัมสตีด กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ เมื่อตอนอายุ 12 ขวบ เขาเริ่มสนใจกับการเล่นสนุกเกอร์ เพราะพ่อของเขาได้มอบหนังสือ “How I Play Snooker” ซึ่งเป็นหนังสือที่แนะนำการเล่นสนุกเกอร์ที่สอนโดยแชมป์โลกผู้ยิ่งยงอย่าง โจ เดวิส พ่อของเขานั่นเอง และเมื่อพ่อของเขาไปสนุกเกอร์คลับเขาจะติดตามไปด้วย เพื่อเล่นสนุกเกอร์นั่นเอง
ในปี 1970 เขาเล่นและฝึกซ้อมสนุกเกอร์อย่างเต็มที่และพัฒนาเทคนิคการเล่นต่างๆ ที่ Lucania Snooker Club ในย่านรอมฟอร์ด จากนั้นในปี 1976 เขาได้แสดงฝีไม้ลายมือได้กลายเป็นแชมป์บิลเลียดของอังกฤษในรุ่นอายุไม่เกิน 19 ปี ในที่สุด
ซึ่งความที่เขามีพรสวรรค์ด้านนี้ ในความโชคดีของเขา ฝีมือของเขาไปเตะตาแบร์รี่ เฮิร์น อย่างจัง ซึ่งในขณะนั้นเป็นประธานของ Lucania Snooker Club ซึ่งต่อมาแบร์รี่ เฮิร์นก็กลายมาเป็นผู้จัดการของสตีฟ และจ่ายเงินให้สตีฟครั้งละ 25 ปอนด์ เป็นค่าใช้จ่ายสำหรับทุกๆ แมตช์การแข่งขัน เมื่อสตีฟมีชื่อเสียงในวงการแล้ว เขาได้รับฉายาว่า “The Nugget” ปัจจุบันสตีฟ ได้จัดพิมพ์หนังสือเกี่ยวกับหมากรุกและการทำอาหารออกมาบ้างแล้ว หลังจากที่เคยทำหนังสือเกี่ยวกับสนุกเกอร์ออกมา เขาเป็นนักสนุกเกอร์ในฐานะที่เป็นอดีตแชมป์โลกหกสมัย และแชมป์ K. Championship อีกหกสมัย ถือว่าไม่ธรรมดาเลยทีเดียว แต่เขาได้ผันตัวไปเป็นดีเจเปิดแผ่นสายเต้นหลังเกษียณ จากเทพบุตรคิวทอง
สตีฟ เดวิส กับชีวิตหลังเกษียณ สู่ดีเจธันเดอร์มัสเซิล
สตีฟได้ประกาศแขวนคิวไปในปี 2016 ด้วยวัย 59 ปี เขาได้ทำจุดหมายที่หนึ่งสำเร็จเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เขาได้มุ่งเดินสายไปอีกเส้นทางนึงที่ทุกคนไม่คาดฝัน ได้มีโอกาสไปเปิดแผ่นในเทศกาลแกลสตันบูรี (Glastonbury) จนถึงขั้นมีวงโพรเกรสซิฟร็อกเป็นของตัวเองเป็นที่เรียบร้อย
เขาหลงไหลดนตรีโพรเกรสซิฟตั้งแต่สมัยเขายังเรียนอยู่ในชั้นมัธยมปลายและแนวเพลง แคนเทอร์เบอรีซีน (Canterbury Scene) เจนเทิลไจแอนต์ (Gentle Giant) คาราวาน (Caravan) และวงที่เขาถือว่าเป็นแฟนตัวยงเลยก็ต้องยกให้ แมกมา (Magma) ซึ่งวงโพรเกรสซิฟร็อกจากแดนฝรั่งเศสเล่นเพลงที่มีความยาวหลักชั่วโมงที่สวมชุดดำกันทั้งวง แถมยังมีภาษาของตัวเองอีกด้วย
หลังจากแขวนไม้คิวในวัยเกือบจะเลข 6 พักหลังนี้สตีฟก็ได้หวนกลับไปฟังเพลงเหล่านั้นอีกครั้ง ด้วยความที่เป็นคนที่หลงใหลในดนตรีแนวนี้เขาก็กระโดดเข้าสู่เส้นทางใหม่แห่งการเป็นดีเจ
สตีฟและเพื่อนสนิทของเขาคาวัสก็ได้จัดรายการวิทยุเป็นประจำมากว่าสิบปีอยู่แล้ว แถมบางครั้งพวกเขาได้ไปเป็นดีเจในบาร์ด้วยกันอีกด้วย จนวันหนึ่งมีคนที่เป็นผู้จัดงานดนตรีแนวอิเล็กทรอนิกส์เดินมาชวนทั้งคู่ให้ไปจัดแสดงในงาน จึงเป็นจุดเริ่มต้นของเส้นทางครั้งนี้
“ผมไม่ได้วางแผนอะไรไว้เลยนะ แต่มันดันไปเข้ากับที่ผมกำลังจะเกษียณพอดีเลย” สตีฟกล่าว
นอกจากดีเจธันเดอร์มัสเซิลจะได้ไปเล่นในเทศกาลแกลสตันบูรีที่นับว่าเป็นงานใหญ่ของสหราชอาณาจักรแล้ว เขายังได้มีโอกาสตระเวนทัวร์ไปทั่วประเทศ เขาสนุกสุดเหวี่ยงกับชีวิตใหม่วัยหลังเกษียณเปลี่ยนจากนักสนุกเกอร์คิวทอง หลังจากเป็นนักสนุกเกอร์มายาวนานถึง 38 ปี กลายเป็นดีเจที่ให้ความบันเทิงแก่ผู้คนข้ามคืน