Archives มีนาคม 14, 2023

ต๋อง ศิษย์ฉ่อย

ต๋อง ศิษย์ฉ่อย ตำนานแชมป์โลกไทยคนแรก

ต๋อง ศิษย์ฉ่อย หรือ เจมส์ วัฒนา ภู่โอบอ้อม เป็นนักสนุกเกอร์ของไทยในยุคแรกๆที่มีความสามารถล้นเหลือ อดีตมือ 3 ของโลก  เมื่อไม่นานมานี้เขาได้คว้า เหรียญทองครั้งแรกใน ซีเกมส์ ในวัย 52 ปี เมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 2565 ในการแข่งขันกีฬาสนุกเกอร์ 15 แดง เป็นการพบกันระหว่าง ต๋อง  กับ ลิ้ม ก๊อก เลียน จากมาเลเซีย ตบท้ายแซงชนะไปด้วยสกอร์ 4-2 เฟรม คว้าเหรียญทองในซีเกมส์ได้สำเร็จ ด้วยความที่เขาเคยอยู่อันดับ 3 ของโลก จึงได้คว้าชัยชนะไปอย่างสวยงาม และเป็นอีกหนึ่งนัดประวัติศาสตร์ของวงการสอยคิวไทยเลยก็ว่าได้

จากเด็กสลัมสู่นักสอยคิวไทยมือทอง

นายวัฒนา ภู่โอบอ้อม ชื่อเล่น ต๋อง เกิดเมื่อวันที่ 17 มกราคม พ.ศ. 2513 พ่อของเขาก็เป็นนักสนุกเกอร์มือดี ฉายาว่า ฉ่อย ซู่ซ่าส์  ซึ่งเขาได้ตามติดดูพ่อเล่นสนุกเกอร์มาตั้งแต่ยังเด็ก เขาได้นำความรู้ที่ได้จากพ่อนี้มาใช้ฝึกฝน และเริ่มแข่งขันสนุกเกอร์ในระดับเยาวชน ขณะอายุเพียง 14 ปี ได้รองชนะเลิศการแข่งขันประเภทดาวรุ่ง ของนิตยสารคิวทอง เมื่อ พ.ศ. 2527 โดยได้ฉายา “ต๋อง ศิษย์ฉ่อย” เพราะบิดา ฉ่อย ซู่ซ่าส์ เป็นครูผู้สอน และเขายังได้ชื่อภาษาอังกฤษว่า เจมส์ วัฒนา (James Wattana)

ต๋อง ศิษย์ฉ่อย

เมื่อปี พ.ศ. 2531 เขาชนะเลิศการแข่งขันชิงแชมป์รายการสนุกเกอร์สมัครเล่นโลก ที่ประเทศออสเตรเลีย เขาได้เริ่มเล่นอาชีพเมื่อปี พ.ศ. 2532 ด้วยฝีมือการสอยคิวอย่างเฉียบแหลม มีความแม่นยำและว่องไว เขาได้ไต่อันดับขึ้นมาอย่างรวดเร็ว จึงได้มีฉายาในเมืองไทยว่า ไทย ทอร์นาโด ส่วนในต่างประเทศมีฉายาว่า Thai Phoon และเขายังสนิทกับนักสนุกเกอร์ชื่อดังของโลกอย่าง รอนนี่ โอซุลิแวน อีกด้วย ในขณะที่เขาอยู่ประเทศอังกฤษ

 

ต๋อง ศิษย์ฉ่อย กับการเข้าสู่อันดับโลก

ในช่วงฤดูกาลปี 1994/95 เขาได้ก้าวสู่อันดับที่ 3 โลก นอกจากนี้ยังเป็นนักสนุกเกอร์คนที่ 8 ของโลกที่สามารถทำเงินรางวัลได้มากกว่า 1 ล้านปอนด์ ปัจจุบันทำรายได้ทั้งหมดจากการแข่งขันอาชีพ 1.75 ล้านปอนด์ (ประมาณ 75 ล้านบาท)

แต่แล้วฟอร์มของเขาก็เริ่มตกลงไปอย่างน่าใจหาย ในช่วงปี 1997 จนในปี 1999 เขาได้หลุดจากอันดับ 16 คนแรกของโลก หลังจากติดอยู่ในอันดับ มาได้ถึง 7 ปี จนมาถึงฤดูกาลปี 2007/08 เขาไม่สามารถชนะในรอบคัดเลือกได้ อันดับโลกในฤดูกาลนั้น จึงอยู่ที่อันดับที่ 64

ต๋อง ซีเกมส์

แต่ล่าสุดนี้ชื่อของเขาก็กลับมาอีกครั้ง เขาได้แสดงฝีมือสอยคิวออกมาจนได้รางวัลชนะเลิศ ซีเกมส์ 2021 ได้คว้าเหรียญทองไปครอง ต๋อง แซงชนะ ลิ้ม ก๊อก เลียน 4-2 เฟรม เป็นการสร้างประวัติศาสตร์คว้าเหรียญทองแรกของตัวเองในการแข่งขันซีเกมส์ครั้งแรกของตัวเอง และยังเหรียญทองแรกของทีมบิลเลียดไทยในกีฬาซีเกมส์อีกด้วย

ผลงาน

รายการสมัครเล่นโลก

  • ชนะเลิศการแข่งขันสนุกเกอร์รายการชิงแชมป์สมัครเล่นโลก ในปี ค.ศ.1988

รายการแข่งขันสะสมคะแนน

  • ชนะเลิศรายการ Strachan Open ในปี ค.ศ.1992
  • ชนะเลิศรายการ Thailand Open ในปี ค.ศ.1994 และ ค.ศ.1995
  • รองชนะเลิศรายการ Asian Open ปี ค.ศ.1989
  • รองชนะเลิศรายการ International ในปี ค.ศ.1993
  • รองชนะเลิศรายการ British Open 3 ปีซ้อน ปี ค.ศ.1992,1993,1994
  • รอบ semi – finals รายการชิงแชมป์โลก Embassy World ปี ค.ศ.1993 และปี ค.ศ.1997

รายการชิงเงินรางวัล

  • ชนะเลิศราการ Hong Kong Challenge ในปี ค.ศ.1990
  • ชนะเลิศรายการ Humo Masters ในปี ค.ศ.1992
  • ชนะเลิศรายการ World Matchplay ในปี ค.ศ.1992
  • ชนะเลิศรายการ Kings Cup ในปี ค.ศ.1992
  • ชนะเลิศรายการ Euro-Asia Masters Challenge ในปี ค.ศ.2003
  • ชนะเลิศรายการ Asian Championship 3 สมัย ในปี ค.ศ.1986,1988,2009
  • รองชนะเลิศรายการ Benson & Hedges Championship ในปี ค.ศ.1990
  • รองชนะเลิศรายการ Hong Kong Challenge ในปี ค.ศ.1991
  • รองชนะเลิศรายการ Nescafe Extra Challenge ในปี ค.ศ.1992
  • รองชนะเลิศรายการ Kings Cup ในปี ค.ศ.1993
  • รองชนะเลิศรายการ The Master ในปี ค.ศ.1993
  • รองชนะเลิศรายการ Euro-Asia Masters Challenge ปี ค.ศ.2007

เบรกที่ทำได้

  • Maximun Breaks (ได้คะแนนสูงสุด 147 แต้ม ในการแทงต่อเนื่อง) 3 ครั้ง
  • ปี ค.ศ.1991 รายการ Mita World Master
  • ปี ค.ศ.1992 รายการ British Open (เวลา 7 นาที 9 วินาที)
  • ปี ค.ศ.1997 รายการ Catch China International
  • ทำ century breaks มากกว่า 140 ครั้ง

 

ชีวิตต้องตกอับเพราะความหลงระเริง

ในช่วงชีวิตคนเราพอไปถึงจุดสูงสุด เป็นช่วงที่เขามีชื่อเสียงมาก มีเงินมีทอง จนทำให้หลงระเริง เขาได้ทำวีซ่าไปเที่ยว ดื่ม ปาร์ตี้กับเพื่อน หลงระเริงกับคำชมต่างๆ จนตั้งตัวไม่ติด กว่าจะรู้ตัวอีกที เขาหมดเงินไปกับคืนๆนึงถึง 7-8 แสน บาทเมื่อ 30 ปีที่แล้ว จึงทำให้ช่วงชีวิตนึงของเขานั้นได้พังลง และไม่ไปซ้อมสนุกเกอร์  แต่จุดที่ทำให้เขาคิดได้ กลับมาเปลี่ยนตัวเองได้ เพราะคุณแม่ผู้มีพระคุณคอยให้ให้กำลังใจ และคนรอบข้างตัวของเขา เขาเลยขึ้นมาฮึดสู้อีกครั้ง

ถึงแม้ที่ผ่านมาเขาคิดจะแขวนคิวไปหลายรอบ แต่เขาก็ยังตั้งใจที่จะเล่นต่อ ยังอยากต่อยอดสร้างให้รุ่นหลังได้แสดงฝีมือการสอยคิวอย่างเขาให้ได้ เขายังได้กล่าวอีกว่า เขาทำงานเบื้องหน้ามานานก็อยากจะอยู่เบื้องหลัง ให้คนรุ่นใหม่ได้พัฒนาแสดงศักยภาพฝีมือต่อไป…

 

จิมมี่ ไวท์

จิมมี่ ไวท์ (Jimmy White) ตำนานสิงห์มือซ้าย ราชาไร้บัลลังก์

จิมมี่ ไวท์ นักสนุกเกอร์ที่โด่งดังที่สุดในยุค 90 และยังเป็นนักสนุกเกอร์มือซ้ายที่เก่งที่สุดในโลกอีกด้วย เชื่อว่าทุกคนต้องคุ้นๆชื่อนี้กันบ้างแหละ ฉายา “สิงห์มือซ้าย” ถูกตั้งโดยชาวไทยด้วยสไตล์ที่ดุดัน เร็ว แม่นยำและเป็นนักสนุกเกอร์ถนัดซ้าย จึงทำให้เมื่อราวๆ 30 ปีที่แล้ว เขามีแฟนคลับมากมายทั่วโลกคล้ายกับจัดด์ ทรัมป์ หรือ รอนนี่ โอซุลลิแวน ในยุคนี้ที่ไม่ว่าลงแข่งที่ไหนคนดูแน่นสนามเรตติ้งพุ่งกระชูดเป็นทุกครั้งที่แข่งขัน  อีกทั้งยังมีลูกไซด์โค้งที่โค้งแบบเห็น ๆ ในการเล่นแต่ละเกม และเป็นที่ชื่นชอบของผู้คน ด้วยสไตล์การเล่นแบบฆ่าลูกเดียว แม้ว่าเค้าจะโลดแล่นในวงการสนุกเกอร์ระดับโลกมาแล้วเกือบ 4 ทศวรรษก็ตาม แต่ยังมีคนรู้จักและยังเป็นไอดอลของนักสนุกเกอร์หลายๆคน

จิมมี่ ไวท์ ผู้ที่ไม่เคยได้แชมป์โลก

ในช่วงที่เยาวชนนั้น จัดได้ว่าเป็นผู้เล่นที่มีความโดดเด่นกว่าเด็ก ๆ ในรุ่นเดียวกัน โดยเมื่อมีอายุได้ 15 ปี ก็สามารถคว้าแชมป์แรกของตัวเองได้ในปี 1977 คือรายการ National Champion และเขาเทิร์นโปรเมื่อปี 1979 แต่มาโด่งดังมากๆในช่วงยุค 90 เคยขึ้นไปสู่จุดสูงสุดที่อันดับที่ 2 ของโลก และต่อด้วยการเป็นแชมป์สมัครเล่นระดับประเทศของอังกฤษในอีกไม่กี่ปีต่อมา จากการที่เขาได้โลดแล่นแข่งมานาน ก็ถึงเวลาที่จิมมี่จะก้าวขึ้นสู่การเล่นระดับอาชีพ แต่ถึงแม้ในช่วงท๊อปฟอร์มจะทำผลงานได้ดีแชมป์มาหลายรายการแต่รายการสำคัญ แต่เขากลับไม่เคยคว้าแชมป์ได้เลยแม้แต่ครั้งเดียว

 

ผิดหวังแล้วผิดหวังอีก..

ถึงแม้ว่าเขาจะไม่เคยได้แชมป์โลกก็จริง แต่ไม่ใช่ว่าเขาไม่เก่ง เขาสามารถไปถึงจุดที่ เข้ารอบชิงชนะเลิศรายการชิงแชมป์โลกมากถึง 6 ครั้ง 

Steve & Jimmy

ครั้งที่ 1 ปี 1884 เขาสามารถระเบิดฟอร์มทะลุเข้าถึงรอบชิงชนะเลิศได้เป็นครั้งแรกแต่โชคไม่ดีที่คู่ต่อสู้ของเขาในรอบชิงคือ สตีฟ เดวิส ที่กำลังท๊อปฟอร์มสุดๆและมีดีกรีเป็นเจ้าของแชมป์โลกถึง 2 สมัย ผลการแข่งขันเป็นดังเซียนต่างๆคาดการณ์ไว้ เขาพ่าย สตีฟ เดวิส สกอร์ 18-16 เฟรม ทำให้สตีฟ เดวิส กลายเป็นแชมป์โลก 3 สมัย ส่วนไวท์ต้องผิดหวังกลายเป็นรองแชมป์โลกสมัยแรก 

 

จนก้าวเข้าสู่ยุค 90  เขาเป็นนักสอยคิวมืออันดับ 2 ของโลก กลับกัน มืออันดับ 1 ของโลก “เทพบุตร คิวทอง” อย่าง สตีฟ เดวิส ฟอร์มเริ่มตก ทำให้สื่อมวลชนต่างๆและแฟนสนุกเกอร์ทั่วโลกต่างเชื่อว่ายุคสมัยกำลังจะเปลี่ยนเป็น ยุคของเขาอย่างเต็มตัวและหวังว่าชื่อจิมมี่ จะได้จารึกประวัติศาสตร์อยู่บนถ้วยแชมป์โลกสักใบ

Stephen & Jimmy

ครั้งที่ 2 จุดเริ่มต้นของการเป็นคู่ปรับตลอดกาลของเฮนดรี้และจิมมี่ก็ได้เกิดขึ้น เขาได้ชิงชนะเลิศรายการชิงแชมป์โลกเป็นครั้งที่ 2 ของชีวิตในปี 1990 คู่ต่อสู้ของเขาคือ สตีเฟ่น เฮนดรี้ วัยรุ่นหัวทองที่หล่อหน้าใส ซึ่งเฮนดรี้เอาชนะจิมมี่18-12 ทั้งๆที่ก่อนหน้านี้เฮนดรี้เจอจิมมี่ทีไร แทบโชว์ฟอร์มไม่ออก และครั้งนี้เฮนดรี้คว้าแชมป์โลกครั้งแรกให้ตัวเองและทำสถิติกลายเป็นแชมป์โลกที่อายุน้อยที่สุด เขาต้องพบกับความผิดหวัง เป็นครั้งที่ 2

John & Jimmy

ครั้งที่ 3 จิมมี่ ไวท์ ยังฮึดสู้กับฟอร์มสุดร้อนแรงในการชิงแชมป์โลกปี 1991 คู่ต่อสู้ของเขาก็คือ จอห์น แพรอต ที่ดูเหมือนว่าจิมมี่จะเอาชนะแพรอตได้ง่ายดาย แต่กลับกลายเป็นตลกร้าย จิมมี่ แพ้อีกครั้งในสกอร์ 18-11 เขากลายเป็นรองแชมป์โลกครั้งที่ 3 

 

ครั้งที่ 4-6 จิมมี่ ยังไม่ยอมแพ้ง่ายๆ เขาเข้าชิงในชิงแชมป์โลกปี1992 และถัดไปอีก2ปีเขาก็ยังเข้าชิงอีกในปี 1993 และ 1994 แต่โชคไม่ได้ช่วยเขาเลยทั้ง 3 ปีนี้มีชายอีกคนที่ทะลุเข้ามารอบชิงชนะเลิศมาเป็นคู่ต่อสู้เค้าได้ทั้ง 3 ปีเช่นกัน และคนคนนั้นก็คือ สตีเฟ่น เฮนดรี้ คู่ปรับตลอดกาลของจิมมี่ นั่นเอง ซึ่งผลที่ออกมาเหมือนกันทั้ง 3 ปี ก็คือ เขาไม่สามารถเอาชนะ สตีเฟ่น เฮนดรี้ ได้เลยในรอบชิงชนะเลิศศึกชิงแชมป์โลก 

 

จิมมี่ นักสนุกเกอร์ผู้อาภัพ

จิมมี่ ไวท์ สามารถเข้าถึงรอบชิงชนะเลิศ 5 ปีติดต่อกันได้  ซึ่งใน 100 ปี มีนักสนุกเกอร์ไม่เกิน 5 คนที่ไปถึงได้ โดยปีที่เขาเอื้อมใกล้ถึงคำว่าแชมป์โลกมากที่สุดคือปี 1994 เขาแพ้ไปด้วยสกอร์ 17-18 ทำให้เฮนดรี้คว้าชัยชนะไปครองแทน รวมทั้งหมดในรายการชิงแชมป์โลกของไวท์เป็นการเข้าชิงชนะเลิศ 6 ครั้งและพ่ายแพ้ทุกครั้ง โดยเขาพ่ายแพ้ให้กับ สตีเฟ่น เฮนดรี้ ไปถึง 4 ครั้ง นับตั้งแต่ปี 1994 เขาไม่สามารถกลับมาเข้าชิงแชมป์โลกได้อีกเลย เนื่องจากอายุที่มากขึ้นและเข้าสู่ขาลง และในการแข่งขันสนุกเกอร์โลกในศึกการแข่งขันสนุกเกอร์ชิงแชมป์โลก ล่าสุดที่ทั้งคู่เจอกันในช่วงเดือนเมษายน 2564 ที่ผ่านมา เขาก็พ่ายแพ้ต่อ สตีเฟ่น เฮนดรี้ อีกแล้ว ศึกเป็นโดยเขาเคยเอาชนะ สตีเฟ่น เฮนดรี้ ได้แค่ 2 ครั้งจากการเจอกัน 8 ครั้ง

 

ถึงแม้เขาจะไม่เคยเป็นแชมป์โลก แต่รางวัลที่ได้รับจากการเล่นสนุกเกอร์ระดับอาชีพ 10 รายการ รองแชมป์ 14 รายการ แทงแม็กซิมั่มเบรกได้ในครูซิเบิ้ล เธียเตอร์ในปี 1992 รวมถึงลีลาการเล่นที่เร้าใจตั้งแต่วัยหนุ่มจนถึงบัดนี้  ถึงแม้ว่าความแม่นทุกระยะจะลดหายไปบ้างตามวัยที่เปลี่ยนไป แต่ยังโลดแล่นอยู่ในสังเวียนสักหลาดสีเขียวก็ยังดูแล้วสนุกเช่นเดิม แฟนๆสนุกเกอร์ต่างมีความเห็นตรงกันว่า จิมมี่ ไวท์ คือนักสนุกเกอร์ที่เก่ง ฝีมือดี โดดเด่น แต่ไม่สามารถจารึกชื่อของคำว่าแชมป์โลกให้กับตัวเองได้ ดั่งเหมือนกับ ราชาไร้บัลลังก์ จึงทำให้เป็นนักกีฬาที่อาภัพและน่าเห็นใจที่สุดคนนึง