สนุกเกอร์ กีฬาเจ้าเสน่ห์ที่ผู้คนหลงไหล
กีฬาในร่ม ก้มแล้วแทง จะนึกถึงกีฬาไหนไม่ได้เลย นอกจาก สนุกเกอร์ เป็นกีฬาที่นิยมอย่างมากทั้งในประเทศ และ ต่างประเทศ ที่ไม่แพ้กีฬาอื่นเลยทีเดียว และที่สำคัญไม่ว่าจะเป็นเพศไหน หรือรุ่นใด ก็เล่นได้ และไม่เสียเหงื่ออีกด้วย เพียงแค่ใช้ทักษะในการวางแผนและเทคนิคในการแทงลูกให้ลงหลุม มีการใช้หัวคิดในการแทงแต่ละครั้ง การควบคุม ฝึกคิด ฝึกการควบคุมกำลังของแขน ซึ่งจะช่วยพัฒนาทักษะ และความแม่นยำ พร้อมทั้งยังเป็นการฝึกสมาธิทำให้เราเป็นคนใจเย็นมากขึ้น กีฬาชนิดนี้อาจจะเป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับคนที่ไม่อยากเสียเหงื่อมากในการเล่น
กีฬาสนุกเกอร์นั้น ฮิตฮอต ในกลุ่มวัยรุ่นหนุ่มๆมากกว่าสาวๆ และยังถือว่าเป็นกีฬาสังสรรค์อีกด้วย ไม่ว่าคุณจะไปบ้านพักอย่างพลูวิลล่า ตามคาเฟ่ หรือตามผับตามบาร์ แน่นอนว่าจะต้องมีโต๊ะสนุกเกอร์หรือพูลให้เล่น หากคุณเล่นเก่ง มีความแม่นยำ และถ้ามีสาวๆจับตาดูอยู่ กีฬานี้จะช่วยดึงดูดความสนใจออกมาให้คุณได้โดยไม่รู้ตัว นี่คือเป็นแหล่งที่มาว่าคำว่า สนุกเกอร์ กีฬาเจ้าเสน่ห์ นั่นเอง และไม่เพียงเท่านั้น ยังได้ฉายาว่า กีฬาของสุภาพบุรุษ เพราะในสมัยก่อนเป็นที่นิยมหนุ่มๆเชื้อพระวงศ์ซึ่งผูกกับความหรูหรา แต่งกายอย่างมีเสน่ห์ ดูดีมีระดับคลาส
กีฬาชนิดนี้ ถือว่าเป็นกีฬาที่เปิดโอกาสให้เด็กและเยาวชนของประเทศไทยที่ชื่นชอบสามารถพัฒนาและฝึกฝนตนเอง เพื่อก้าวไปสู่ระดับโลกได้ เปิดการแข่งขันทั้งแบบสมัครเล่นและอาชีพ ซึ่งในประเทศไทยก็มีนักกีฬาที่ไปถึงระดับโลกมาแล้ว อย่างเช่น ต๋อง ศิษย์ฉ่อย, เอฟ ไชยา อุ่นหนู, หมู ปากน้ำ ฯลฯ และ มิ้งค์ สระบุรี ที่เพิ่งได้แชมป์โลกหญิงมาในปี 2022
กีฬาสนุกเกอร์ เป็นกีฬาที่สามารถเล่นได้ทุกสถานการณ์และทุกโอกาส เล่นเพื่อนันทนาการสนุกสนาน เพลิดเพลิน ทั้งนี้ถ้าเราฝึกฝนบ่อยๆ จนเกิดความชำนาญและแม่นยำนั้น ฝันที่จะไปไกลถึงระดับโลกก็อยู่แค่เอื้อม ไม่เกินจริงแน่นอน เราควรสนับสนุนกีฬาชนิดนี้เพื่อให้มีนักกีฬา นักสอยคิว ใหม่ในวงการเกิดขึ้น สร้างชื่อเสียงให้กับประเทศไทยต่อไปในอนาคต เหตุใดจึงควรสนับสนุนกีฬาชนิดนี้ เรามาดูกันดีกว่า มีประโยชน์หรือข้อดีอะไรบ้าง
ประโยชน์ของกีฬาสนุกเกอร์
1. ฝึกสมาธิ
ต้องใช้สมาธิสูงมากในการจดจ่ออยู่กับเกม ต้องไม่ตื่นตระหนก วอกแวกไปมา หากเสียสมาธิอาจจะทำให้แทงลูกพลาดได้
2. สร้างสมดุลและประสาทสัมผัส
ในการยืนและออกคิวในท่าที่ถูกต้อง นักกีฬาต้องฝึกยืดหยุ่นและปรับสมดุลร่างกายให้ดีอยู่เสมอ ซึ่งจะทำให้การใช้ประสาทสัมผัสทางด้านสายตาและมือทำงานร่วมกันได้ดีขึ้นอีกด้วย
3. ทักษะแก้ปัญหาเฉพาะหน้าได้ดี
การแทงสนุกเกอร์นั้นมันไม่ง่าย ซึ่งเราไม่รู้เลยว่าคู่แข่งจะแทงลูกสนุกเกอร์ที่อยู่บนโต๊ะออกมาอยู่ในรูปแบบไหน เมื่อถึงตาเราเล่นนั้นถือว่าเป็นการฝึกการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าเราจะต้องคิดวิธีแก้ไขให้แทงลูกได้คะแนนมากกว่าฝ่ายตรงข้ามนั่นเอง
4. เหมาะกับทุกเพศทุกวัย
อย่างที่กล่าวไปกีฬาชนิดนี้ไม่จำกัดเพศและวัย เด็กๆก็เล่นได้ผู้ใหญ่ก็เล่นดี เป็นกีฬาที่สนุกสามารถเล่นกับคนในครอบครัวหรือเพื่อนได้ และยังต่อยอดพัฒนาไปเป็นนักกีฬาได้อีกด้วย
5. ฝึกความแม่นยำของสายตาน้ำหนักมือ
แน่นอนว่า สนุกเกอร์ ต้องใช้สายตาในการแทงลูกสำคัญที่สุดแต่ต้องใช้น้ำหนักมือให้เป็นอีกด้วย หากแทงแรงหรือเบาไปลูกอาจจะไม่ลงหลุม แทงยังไงให้ลูกสีขาวไปชนลูกที่เล็งไว้ลงหลุมให้ได้
ประวัติกีฬาสนุกเกอร์
กีฬาสนุกเกอร์ มีต้นกำเนิดมาจากในเมืองจาบาลปุร์ ประเทศอินเดีย ซึ่งได้รับความนิยมในหมู่ทหารอังกฤษ โดยรากฐานของกีฬามาจากบิลเลียด เนื่องจากกีฬาบิลเลียดเป็นกีฬาที่เล่นกันระหว่างผู้เล่น 2 คน โดยใช้ลูกบิลเลียด 3 ลูก ได้แก่ ขาว แดง เหลือง จึงทำให้มีการพัฒนาเกมการเล่นขึ้นมาใหม่ เพื่อให้สามารถมีผู้เล่นได้มากขึ้น ซึ่งก็รวมไปถึงกีฬาพูลที่เรียกว่า Life Pool หรือ Pyramid Pool
- Life Pool
จะใช้ลูกสีต่าง ๆ ซึ่งใช้เป็นทั้งลูกคิวบอล และลูกเป้า ในการเล่น
- Pyramid Pool
จะใช้ลูกแดง 15 ลูก และลูกขาวซึ่งเป็นลูกคิวบอล 1 ลูก ผู้เล่นจะได้ 1 คะแนนเมื่อตบลูกสีแดงลงหลุม 1 ลูก
- Black Pool
เป็นกีฬาที่มีการพัฒนาขึ้น โดยมีความคล้ายคลึงกับ Pyramid Pool จะแตกต่างกันตรงที่มีการนำเอาลูกสีดำ จาก Life Pool เข้ามาร่วมเล่นด้วย ซึ่งเมื่อแทงลงหลุมไป จะทำให้ได้คะแนนมากกว่าลูกอื่น ๆ
ในปี 1884 กติกาสนุกเกอร์เริ่มใช้ครั้งแรก สถานที่เล่นที่นิยมก็คือ สโตนเฮาส์ ในเมืองอูตี โดย เซอร์ เนวิลล์ ฟรานซิส ฟิตซ์เจอรัลด์ แชมเบอร์เลน เป็นคนสร้างกติกาขึ้นมาและเขา ใช้โต๊ะที่ทำขึ้น ขนมาจากเรือโดยชื่อว่า เบอร์โรส์แอนด์วัตต์ (Burroughes & Watts) แชมเบอร์เลนได้เสนอขึ้นมาว่า น่าจะมีการเพิ่มลูกสีอื่น ๆ เข้าไปในเกมอีก เพื่อให้มีคะแนนที่หลากหลายและสนุกสนานมากยิ่งขึ้น
คำว่า สนุกเกอร์ (snooker) เป็นคำสแลงของนักเรียนนายทหารปีแรกๆหรือบุคลากรที่ไม่มีประสบการณ์ กล่าวคือคู่แข่งของผู้พันแชมเบอร์เลน แทงพลาดเป้าหรือไม่ถูกลูก ซึ่งผู้พันฯเรียกผู้เล่นคนนั้นว่า "Real Snooker" (สนุกเกอร์ ตัวจริง) นี่เองจึงกลายเป็นกีฬาสนุกเกอร์ ในเวลาต่อมา ในปี 1887 กีฬาสนุกเกอร์ได้รับการตีพิมพ์เป็นครั้งแรกในหนังสือพิมพ์ สปอร์ติงไลฟ์ (Sporting Life) ทำให้กลายเป็นที่รู้จักมากขึ้น และจากการกล่าวขานของนิตยสาร เดอะฟิลด์ (The Field) ส่งผลให้แชมเบอร์เลนกลายเป็นผู้คิดค้นเกมสนุกเกอร์โดยปริยาย ถูกตีพิมพ์เมื่อวันที่ 19 มีนาคม ค.ศ. 1938

เพราะเหตุนี้สนุกเกอร์ในประเทศอังกฤษได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้น แต่มีแค่กีฬาบิลเลียดที่ไม่อนุญาตให้ผู้อื่นที่ไม่ใช่สมาชิกได้เล่น เป็นกีฬาของชนชั้นสูง มันเหมือนปิดโอกาสให้กับผู้คนอย่างมาก ทางชมรมสนุกเกอร์จึงเริ่มก่อชมรมขึ้นอย่างกว้างขวางเพื่อรองรับ ทำการเจาะตลาดชนชั้นแรงงาน ให้เป็นเกมที่เข้าถึงได้ง่าย เป็นกิจกรรมยามเลิกงานใช้ในการพักผ่อนสำหรับคนชนชั้นล่าง ให้ผู้คนได้เล่นมากขึ้นนั่นเอง
กติกาการเล่น "สนุกเกอร์" ได้มีการร่างขึ้นมาเป็นครั้งแรกในปี ค.ศ.1882 ที่ตำบล อูตากามุน (Ootacamund) ในเมืองมาดราส (Madras Province) ต่อมาในปี ค.ศ. 1885 มีแชมป์บิลเลียดชาวอังกฤษ ชื่อ "จอห์น โรเบิร์ต" เดินทางไปประเทศอินเดีย และได้พบกับผู้พันแชมเบอร์เลน เมื่อได้รู้จักกีฬาสนุกเกอร์แล้ว เมื่อเขาเดินทางกลับบ้าน เขาได้นำกีฬาชนิดนี้ไปเผยแพร่ในประเทศอังกฤษอย่างทันที จึงทำให้ได้รับความนิยมกันอย่างกว้างขวางมากขึ้น
การเติบโตของกีฬาสนุกเกอร์ในยุคแรก

ในปี 1927 ได้มีเวิลด์สนุกเกอร์แชมเปียนชิปครั้งแรก ได้จัดตั้งโดย โจ เดวิส เขาเป็นผู้ส่งเสริมกีฬาสนุกเกอร์ เขานักกีฬาอิงลิชบิลเลียดและนักสนุกเกอร์อาชีพ นักสอยคิวหนุ่มที่เติบโตมาจากครอบครัวกรรมกรขุดเหมือง ได้เงินรางวัลเป็นจำนวน 6.10 ปอนด์ ซึ่งในขณะนั้นเบรคสูงสุดที่ทำได้เพียง 60 แต้ม ซึ่งถือว่าความสามารถในสมัยนั้นยังไม่สูงมาก และเขาเป็นเพียงผู้เล่นคนเดียวที่มากฝีมือที่สุดในยุคนั้น คว้าแชมป์โลกไปทุกปีแบบไม่ยอมแบ่งให้ใครเลย จนกระทั่งในที่สุดเขาตัดสินใจแขวนคิวปิดตำนานไปในปี ค.ศ. 1946
ในระหว่างปี ค.ศ. 1952 และ 1957 ได้เกิดข้อพิพาทกีฬาสนุกเกอร์กันขึ้น เนื่องจากกีฬาสนุกเกอร์มีผู้เข้าแข่งขันเพียง 2 คนเท่านั้น จึงทำให้เกิดข้อพิพาทระหว่างกระทรวงกีฬาและคณะกรรมการควบคุมกีฬา และสมาคมกีฬาบิลเลียดของอังกฤษ โดย 2 ฝ่ายแรก ไม่ยอมรับตำแหน่งแชมป์โลก ถึงแม้ว่ามีการจัดการแข่งขันอย่างไม่เป็นทางการขึ้น แต่ผู้ที่ชนะเลิศในการแข่งขันในสมัยนั้น ก็คือ “ฮอเรซ ลินดรัม” (Horace Lindrum) เขาคว้าแชมป์ได้ทุกครั้ง ทั้งๆที่คนทั่วไปยอมรับว่าเขาคือผู้เล่นที่เก่งที่สุดในโลกในขณะนั้นก็ตาม แต่ไม่ได้การยอมรับเป็นแชมป์โลก เพราะได้เกิดข้อพิพาทนี้เองจึงทำให้กีฬาสนุกเกอร์ได้เสื่อมถอยลงจนถึงทศวรรษ 1950 และ 1960 เพราะต้องหยุดชะงักการแข่งขันไปหลายปี ทำให้ผู้คนเลิกเล่นและได้รับความนิยมน้อยลง
ความก้าวหน้าที่สำคัญของกีฬาสนุกเกอร์
ก้าวเข้ามาในยุคที่สำคัญได้รับความนิยมจากผู้ชมเป็นอย่างมาก ในการที่จะนำกีฬาสนุกเกอร์เข้าสู่สายตาของประชาชนผ่านโทรทัศน์ เมื่อในปี ค.ศ. 1969 สถานีโทรทัศน์บีบีซี ของอังกฤษ (BBC) ได้จัดการแข่งขันขึ้น ชื่อรายการว่า “Pot Black Tournament” เรตติ้งพุ่งกระฉูด จึงทำให้ได้รับความนิยมมากขึ้นและเป็นที่สนใจมากขึ้น เพราะการแสดงภาพของโทรทัศน์สีกับโต๊ะสีเขียวและลูกหลายหลากสีที่แพร่ภาพออกมานั่นเอง เพราะความมีสีสันนั้นทำให้ผู้คนจับตามองและการเล่นกีฬาชนิดนี้ถือว่าดูได้อย่างเพลิดเพลิน สบายตา และลุ้นให้ลูกเข้าลงหลุม และนักกีฬาต่างก็เผยฝีมือตนเองออกมา จึงไม่แปลกเลยว่าทำไมถึงเรตติ้งสูงและได้รับการสนใจมากขึ้น
ต่อมาในปี ค.ศ. 1972 นักสนุกเกอร์นามว่า “อเล็กซ์ ฮิกกินส์” (Alex Higgins) เขาเข้าแข่งขัน 2 รอบ และครั้งที่สองนั้นเขาสามารถคว้าแชมป์โลกครั้งแรกของเขาได้สำเร็จ ด้วยสไตล์การเล่นที่ดุเดือด ที่เต็มไปด้วยความกล้า บ้าบิ่น เขาจึงได้ฉายาว่า เดอะ เฮอริเคน “Hurricane” ที่แทงรวดเร็วและกล้าที่จะแทงนั่นเอง นับเป็นการปลุกกระแสความนิยมให้กับกีฬาสนุกเกอร์กลับมาอีกครั้งอย่างมาก และข่าวหนังสือพิมพ์บนหน้าหนึ่ง มีการขนานนามเขาว่าเป็น “ดารา ร็อค แอนด์ โรล” ของวงการสนุกเกอร์คนแรก พร้อม ๆ ไปกับการนำเสนอการถ่ายทอดบนจอทีวีในระบบสีไปด้วย จึงกลายเป็นกีฬายอดนิยม ขวัญใจประชาชนไปทั่วโลกโดยปริยาย โดยเฉพาะในสหราชอาณาจักร ในเครือจักรภพและไอร์แลนด์
กีฬาชนิดนี้ได้ประสบความสำเร็จมากในช่วง 30 ปีที่ผ่านมา มีการแข่งขันผ่านการถ่ายทอดสดทางโทรทัศน์มากที่สุด ในปี 1985 ได้รวมผู้ชมทั้งหมด 18.5 ล้านจากการแข่งขันเฟรมสุดท้ายระหว่าง เดนนิส เทย์เลอร์ และ สตีฟ เดวิส แต่ในปีที่ผ่านๆมามีการโฆษณายาสูบ จึงทำให้ผู้แข่งขันระดับอาชีพลดลง แต่ความโชคร้ายยังมีความโชคดี กีฬาสนุกเกอร์ได้มีความนิยมในตะวันออกและจีน จึงทำให้มีผู้เล่นที่มากความสามารถหน้าใหม่ที่เป็นที่ยอมรับมากขึ้น เช่น เหลียง เหวินปั๋ว, ติง จวิ้นฮุย และ มาร์โก ฟู เป็นต้น
ในประเทศไทยผู้คนรู้จักกีฬาสนุกเกอร์ได้อย่างไร?
กีฬาสนุกเกอร์ เป็นกีฬาที่ชี้ผลแพ้-ชนะ จึงได้มีการเล่นพนันกันเพื่อความสนุก จากเหตุนี้ ทางกระทรวงมหาดไทย โดยกรมตำรวจจึงจัดเอาบิลเลียด-สนุกเกอร์ไว้ในพระราชบัญญัติการพนันประเภท ข. ตั้งแต่ปี 2478 และเป็นกฎหมายที่ใช้ควบคุมมาจนถึงปัจจุบัน
ต่อมาในปี พ.ศ. 2500 ได้มีการจัดการแข่งขันสนุกเกอร์ชิงชนะเลิศแห่งประเทศไทยขึ้นเป็นครั้งแรก ที่สมาคมพ่อค้าไทย วิเชียร แสงทอง หรือ เซียน กิ๊ด นครสวรรค์ เป็นแชมป์ประเทศไทย จนกระทั่งปี พ.ศ. 2525 ชาวอังกฤษ นายมอริส เคอร์ อดีตกรรมการบริหารราชกรีฑาสโมสร ได้ฟื้นฟูกีฬานี้อีกครั้ง ให้มีการจัดการแข่งขันชิงแชมป์ประเทศไทยขึ้น ภายในบริเวณราชตฤณมัยสมาคม (สนามม้านางเลิ้ง) เป็นการแข่งขันในปีแรก
ต่อมาในปี พ.ศ. 2527 นายมอริส เคอร์ ก็ได้ก่อตั้ง สหพันธ์สนุกเกอร์แห่งเอเซีย ขึ้นมา มีประเทศสมาชิกทั้งหมด 16 ประเทศ ได้แก่ ไทย สิงคโปร์ ฟิลิปปินส์ มาเลเซีย บรูไน ฮ่องกง อินเดีย ปากีสถาน บังคลาเทศ ศรีลังกา ไต้หวัน อินโดนีเซีย จีน คูเวต และซาอุดิอาระเบีย ให้มีการหมุนเวียนกันเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันสนุกเกอร์ชิงชนะเลิศแห่งเอเซียอย่างต่อเนื่อง และยังได้มีการรวมกีฬาบิลเลียด พูล จากนั้นเปลี่ยนชื่อเป็น สหพันธ์กีฬาบิลเลียดแห่งเอเซีย รวมถึงกำหนดกฎระเบียบในการจัดการแข่งขันด้วยมาจนถึงปัจจุบัน
การเผยแพร่กีฬาสนุกเกอร์ให้ครอบคลุมทั่วทุกภูมิภาค ซึ่งเป็นการกระตุ้นให้คนไทย การกีฬาแห่งประเทศไทยได้ให้การสนับสนุนกับสมาคมกีฬาบิลเลียดแห่งประเทศไทย โดยเฉพาะเยาวชนหันมาสนใจดู หรือเล่นกีฬาสนุกเกอร์มากยิ่งขึ้น ทำให้กีฬาสนุกเกอร์ได้ความนิยมจากเด็กและเยาวชนในประเทศไทยเป็นอย่างมาก และทางสมาคมได้เปิดโอกาสให้นักสนุกเกอร์รุ่นใหม่ได้ฝึกฝีมือ รวมทั้งมองหานักกีฬาดาวรุ่งพุ่งแรง ที่จะเป็นกำลังสำคัญในทีมสนุกเกอร์ไทยในอนาคต ทั้งนี้จึงดำเนินการจัดการแข่งขันสนุกเกอร์เก็บคะแนนสะสม เพื่อพัฒนาไปสู่ระดับนักกีฬาอาชีพ (Thailand Ranking Circuit) โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนากีฬาสนุกเกอร์ภายในประเทศไทยให้ก้าวไปสู่ระดับโลก ต้องฝึกฝนอย่างต่อเนื่อง ยิ่งมีเวลามากเท่าไหร่ก็ต้องฝึกฝนมากเท่านั้น โดยทางสมาคมจะมีการซ้อมให้นักกีฬาได้ฝึกฝนอย่างเต็มที่ โชว์ศักยภาพของตนเองออกมา ยิ่งมีโอกาสเข้าไปแข่งขันก็จะทำให้ได้เจอกับคู่ชิงที่มีประสบการณ์และระดับฝีมือที่แตกต่างกันออกไป และจุดนี้แหละที่เราจะได้เรียนรู้จากเทคนิคของคู่ต่อสู้ เพื่อนำไปพัฒนาฝีมือตนเองได้ดียิ่งขึ้น จนกลายเป็นนักกีฬาระดับโลกได้
อุปกรณ์การเล่นสนุกเกอร์หลักๆ
โดยในส่วนของอุปกรณ์สำคัญที่จำเป็นและขาดไม่ได้สำหรับกีฬาประเภทนี้ ได้แก่ โต๊ะสนุก ไม้คิว ชอล์กฝนหัวคิวและลูกสนุกนั่นเองการเล่นสนุกเกอร์นั้น
1. ลูกสนุกเกอร์ ก็จะมี
- ลูกสีแดง 15 ลูก (1 แต้ม)
- ลูกเหลือง (2แต้ม)
- ลูกสีเขียว (3แต้ม)
- ลูกสีน้ำตาล (4แต้ม)
- ลูกสีน้ำเงิน (5แต้ม)
- ลูกสีชมพู (6แต้ม)
- สีดำ (7 แต้ม)

สีละ 1 ลูก โดยผู้เล่นจะต้องแทงลูกสีขาว ที่เรียกว่า คิวบอล ไปกระทบลูกสีแดงให้ลงหลุมก่อนถึงจะเล่นลูกสีอื่นได้ เมื่อลูกสีแดงหมดโต๊ะแล้ว ผู้เล่นก็จะไล่เก็บสีตามคะแนนจากน้อยไปหามาก โดยสีดำจะเป็นลูกสุดท้าย ใครเป็นผู้ทำแต้มได้มากที่สุดจะเป็นผู้ชนะในเกมนั้น แต้มสูงสุดของการเล่นสนุกเกอร์คือ 147 คะแนน หรือเรียกว่า “แม๊กซิมัม เบรก”
2. โต๊ะสนุกเกอร์ มาตรฐานทั่วไปจะมีขนาดอยู่ที่ 11 ฟุต × 5 ฟุต พร้อมกับมีหลุมอยู่บนโต๊ะรวม 6 หลุมด้วยกัน แบ่งออกเป็นด้านมุมโต๊ะทั้ง 4 มุม มุมละ 1 หลุม และด้านยาวขอบโต๊ะฝั่งละ 1 หลุม
3. ไม้คิว เป็นไม้ที่เอาไว้ใช้สำหรับการแทงลูกสนุกเกอร์
4. ชอล์ก มีเอาไว้ใช้สำหรับฝนหัวไม้คิว เพื่อไม่ให้หัวไม้คิวด้านเกินไป และแทงลูกได้ง่ายขึ้น
ขั้นตอนการเล่นสนุกเกอร์คร่าวๆ
สนุกเกอร์ เป็นกีฬาที่ท้าทายความสามารถของผู้เล่นมากที่สุด ซึ่งจะต้องมีไหวพริบดี สายตาแม่น และน้ำหนักมือและแขนที่ดี ไม่ว่ากีฬาชนิดไหนล้วนต้องมีพื้นฐานในการเล่นและการฝึกฝน ซ้อมบ่อยๆเล่นบ่อยๆมันจะสะสมเกิดเป็นประสบการณ์ขึ้นมาเอง ดังนั้น มันจะไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป เราต้องควรรู้ก่อนว่า ขั้นตอนพื้นฐานของการเล่นสนุกเกอร์นั้นมีอะไรบ้าง หากเล่นให้ถูกวิธีมีมาตรฐานจะต้องใช้ระยะเวลานานพอสมควร ดั่งเช่นคำเปรียบว่า กรุงโรมไม่ได้สร้างวันเดียว ดังนั้นเราควรฝึกฝนพื้นฐานให้ถูกวิธี เพื่อจะนำไปต่อยอดในการเล่นต่อไป
-
ท่ายืน
การยืนก็เป็นพื้นฐานของการเล่นสนุกเกอร์ที่ไม่ควรมองข้าม เพราะจะช่วยให้เราออกคิวได้อย่างมีประสิทธิภาพ และไม้คิวประจำตัวที่ดีควรจะยาว 3 ศอก 3 นิ้ว จะก่อให้เหมาะสมกับสรีระของผู้เล่น
-
การจับคิว
จับคิวให้จับระยะ 3 ศอก 3 นิ้ว ควรจับโดยกำไม้คิวไม่รัดแน่นหรือหลวมเกินไปควรจับให้พอดี จะทำให้แทงลูกได้อย่างคล่องแคล่ว
-
สะพานมือ
ควรที่จะมีการวางสะพานมือให้เหมาะสมกับการปล่อยคิวในลักษณะต่างๆ การวางสะพานมือมีหลายรูปแบบ ซึ่งมีผลต่อการแทงลูกเช่นกัน
-
การสาวคิว
อย่าให้ข้อศอกตกหรือบิดไปมา อาจจะทำให้พลาดได้ โดยในการแทงให้ใช้การพับศอกในการแทงไม่ใช่การใช้ข้อมือแทง โดยที่สาวไปยังลูกสีขาวสัก 5 ครั้งตรงจุดที่เล็งไว้ หรือเมื่อมั่นใจแล้วให้กำหนดแทงตามน้ำหนักมือ อย่าให้คิวเลยลูกเด็ดขาด
ที่กล่าวมาทั้งหมดเป็นแค่เพียงพื้นฐานหรือเบื้องต้นเท่านั้น ยังมีเทคนิคและวิธีต่างๆอีกมากมาย เช่น การมองเหลี่ยม น้ำหนักมือ การวางสะพานมือ การแก้ลูกสนุกเกอร์ ล้วนเป็นสิ่งสำคัญทั้งหมด ซึ่งเทคนิคต่างๆเหล่านี้ สามารถเรียนรู้ได้ในยูทูบหรือตามโซเชียลมีเดียต่างๆ แต่ถ้าให้เล่นได้เทคนิคไว แนะนำให้ลองเล่นในสนามแข่งขันกับคู่ต่อสู้บ่อยๆ เราจะได้เห็นเทคนิคต่างๆที่เขาให้และการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าได้ หรือจะเล่นอย่างชิลๆ สนุกสนานกับเพื่อนก็ได้ ไม่ว่ากีฬาชนิดไหนก็เกิดจากการฝึกฝนทั้งนั้น จงอย่าพ่ายแพ้ และกีฬาชนิดนี้มีประโยชน์และเหมาะกับใครหลายๆคนที่ไม่ชอบการเสียเหงื่ออีกด้วย ถ้าคุณรักกีฬาสนุกเกอร์ นี่แหละคือกีฬาของคุณ